สำหรับปีนี้ก็เรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรี “ปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของ Leica” อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นกล้องและเลนส์ในตำนานที่ถูกนำมา Remake ใหม่ หรือของสะสมเจ๋ง ๆ มากมายที่มีมาให้เห็นแทบไม่เว้นเดือน และล่าสุด... มันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Leica จับมือกับ Royal Selangor... ???
ก็ LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% ยังไงล่ะ!
ใช่ครับ วันนี้เราจะพาไปดูกันครับ ว่า BE@RBRICK แห่งจุดแดงตัวนี้มันมี gimmick น่าสนใจ มีอะไรเจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่บ้าง แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Royal Selangor กันก่อนดีกว่า เขาเป็นใคร? ทำไม? ได้มาร่วมงานศิลป์ชิ้นนี้กับ Leica…

ถ้าบอกว่า Leica คือ Iconic ของวงการกล้อง Royal Selangor ก็คือผู้นำของโลกแห่งโลหะศิลป์ เพราะนี่คือ Global Luxury Craft Brand อันดับ 1 ของโลกในด้านการผลิตและออกแบบสินค้า Pewter (งานโลหะที่มีส่วนผสมหลักเป็นดีบุก) เคยร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ Lucasfilm, Disney, Medicom Toy และล่าสุดก็กับ Leica นี่ล่ะครับ ซึ่งที่น่าทึ่งมาก ๆ เลยก็คืองานทุกชิ้นของ Royal Selangor มีลักษณะเป็นงาน Handmade หรือกึ่ง Handmade ทั้งสิ้น สำหรับจุดนี้ของทั้งคู่ก็เรียกว่ามีความคล้ายกันมาก ๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Leica จะเลือกร่วมงานกับ Royal Selangor จนเกิดเป็น LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% นี้ขึ้นมา

ซึ่งสำหรับ LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% ตัวนี้ ก็เป็น BE@RBRICK ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากกล้องต้นแบบ UR-Leica นั่นเองครับ และทาง Royal Selangor ก็ทำการซ่อน gimmick ของ UR-Leica เอาไว้ในงานออกแบบได้ดีมาก ๆ คือเพียงแค่มองผ่าน ๆ เราก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของ UR-Leica อย่างชัดเจน จนสามาถรับรู้ได้ทันทีเลยว่า BE@RBRICK ตัวนี้ มันคือ LEICA BE@RBRICK ของจริง เพราะมันเต็มไปด้วย gimmick มากมายของ UR-Leica ซ่อนอยู่เต็มไปหมดทั้งตัวเลยทีเดียวล่ะครับ

โดยในจุดแรกที่ส่วนหัว กับดวงตาแห่ง Leica ที่ถูกออกแบบมาให้ดูเหมือนใส่แว่นกันแดด เป็นแถบโค้งมนที่สะท้อนดีไซน์สุดโมเดิร์น แต่ในขณะเดียวกันพอได้มองแล้วก็ชวนให้นึกถึงกล้อง Leica ขึ้นมาเองโดยไม่รู้ตัว เพราะถ้าสังเกตกันดี ๆ เราจะเห็นว่านี่คือแถบแว่นกันแดดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมุมมองด้านบน (top view) ของกล้อง Leica อย่างชัดเจน ส่วนใบหูทั้งสองข้างเองก็ถูกออกแบบมาให้มีรอยลอกสีอย่างตั้งใจ เพื่อสื่อถึง Leica brassing อันเป็นศิลปะแห่งร่องรอยการใช้งาน ที่เกิดจากความผูกพันระหว่างช่างภาพกับกล้องคู่ใจ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Leica brassing ที่นี่)

ต่อมาที่ข้อมือซ้ายจะสวมใส่(ลวดลายจำลองของ) LEICA ZM 1 นาฬิกาจุดแดงที่เชื่อมโยงความ Minimal but meaningful ของ Leica เอาไว้กับความแม่นยำอย่างลงตัว ในขณะที่เท้าทั้งสองข้างและข้อมือขวาก็มาพร้อมการแกะลวดลายพื้นผิวแบบ Knurling ซึ่งสื่อไปถึงพื้นผิวแป้นหมุน (dial) ของกล้อง UR-Leica

ส่วน Highlight บริเวณลำตัวเองก็มีการแกะสลักลวดลายจำลองแผ่นป้ายรำลึกที่ถูกออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาจากด้านหน้าของกล้อง UR-Leica ซึ่งแผ่นป้ายนี้เป็นหมุดหมายที่ถูกใช้ระบุพิกัดที่ Oskar Barnack เคยใช้กล้อง UR-Leica ลั่นชัตเตอร์ประวัติศาสตร์ในปี 1914 เมื่อ 111 ปีที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยการเล่นเฉดสี bronze แบบด้านตัดกับ pewter ขัดเงาเลียนแบบผิวชิ้นแก้วของเลนส์
ที่บริเวณเอว (เข็มขัดด้านหน้า) ของ LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% จะมีการแกะคำว่า UR-Leica ไว้อย่างเด่นชัด ส่วนด้านหลังของ LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% ก็ได้รับการออกแบบให้สะท้อนรูปลักษณ์ของกล้อง UR-Leica ไว้อย่างสมจริง พร้อมประทับตราโลโก้ E. Leitz Wetzlar อันเป็นตัวแทนของความแม่นยำและศูนย์กลางความเชี่ยวชาญด้านเลนส์จากเยอรมนีเอาไว้อีกด้วย
และสุดท้ายที่ขาทั้งสองข้าง บริเวณด้านหลังแฝงไว้ด้วยลวดลายแกะสลักจำลองโครงสร้างภายในของกล้องเอาไว้อย่างแนบเนียน บ่งบอกถึงความพิถีพิถันของงานออกแบบจาก Royal Selangor ได้เป็นอย่างดี โดยที่ขาขวาด้านหน้าจะถูกติดตั้งหน้าปัดปรับสปีดชัตเตอร์ (shutter speed dial) ลงไป และที่ใต้ฝ่าเท้าจะมีโลโก้ของ Medicom Toy, Royal Selangor และ Leica เพื่อแทนการร่วมกันในครั้งนี้อีกด้วย
และ... นี่คือ LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% ของสะสมสุดพิเศษสำหรับ Leica lovers โดยเฉพาะ BE@RBRICK ตัวนี้คือการผสมผสานตำนานและจิตวิญญาณของ Leica เข้ากับความสร้างสรรค์ของ Royal Selangor จนกลายเป็นตัวแทนความคิดถึงต่อกล้อง UR-Leica ปี 1914 ที่ถูกสะท้อนอยู่ในงานออกแบบอย่างลึกซึ้งและโดดเด่นในเวลาเดียวกัน
สำหรับคนที่สนใจ LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% ไม่ต้องบินไปไกลถึงสิงคโปร์ เร็ว ๆ นี้มีข่าวดีมาฝากกันแน่นอนครับ ติดตามกันเอาไว้ให้ดีที่หน้าเพจได้เลย ส่วนวันนี้ สวัสดีครับ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า