คิดว่า Leica lovers ในบ้านเราน่าจะทราบกันแล้ว ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มีของสะสมสำหรับ Leica lovers ออกมาใหม่ชิ้นหนึ่ง เป็น BE@RBRICK ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Leica, Royal Selangor และ Medicom Toy สู่น้องหมีอาร์ตทอย BE@RBRICK จุดแดงที่มี gimmick ของ UR-Leica สอดแทรกอยู่มากมายภายในตัว... LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400%
อันที่จริงตอนแรกก็คิดว่าจะพาไปชมกับ gimmick ที่ซ่อนอยู่บนตัวของ LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% กันเลยอยู่เหมือนกันล่ะครับ แต่ว่าพอค้นลึกลงไปก็พบว่าชื่อของ Royal Selangor ก็น่าค้นหาและทำความรู้จักไม่แพ้กันเลยล่ะ
เพราะฉะนั้นในวันนี้ก่อนที่เราจะไป Say Hi กับน้องหมีอาร์ตทอย LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400% ก็เลยจะขอพาไปทำความรู้จักกับ Royal Selangor เจ้าของความสร้างสรรค์ที่สื่อสารภาษากับโลกผ่านการหล่อหลอมโลหะศิลป์คนนี้กันสักหน่อย เขาเป็นใคร? ทำไม? ได้มาร่วมงานศิลป์ชิ้นนี้กับ Leica…
(For Leica lovers in Thailand, word may already be out: a new collectible has just been unveiled—one made especially for die-hard fans of the red dot. Meet the LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400%, an art toy born from a creative collaboration between Leica, Royal Selangor, and Medicom Toy.
This bear-shaped sculpture is packed with design Easter eggs inspired by the legendary UR-Leica.
At first, I was ready to dive straight into exploring the clever details hidden within this one-of-a-kind BE@RBRICK. But as I looked deeper, I realized something else deserved the spotlight too—Royal Selangor.
The more I discovered, the more intrigued I became. So before we say hello to the LEICA BE@RBRICK ROYAL SELANGOR 400%, let’s take a step back and get to know the brand behind the craftsmanship—Royal Selangor, a design house that has turned metalworking into an art form and storytelling medium.
Who are they, and how did they come to collaborate with a brand like Leica?)
Rising from a humble workshop into a boundless universe of pewter artistry.
พูดไปใครจะเชื่อล่ะ ว่าความยิ่งใหญ่ระดับโลกของ Royal Selangor เริ่มต้นจาก Workshop เล็ก ๆ ในมาเลเซียที่นำโดยช่างหนุ่มไฟแรงคนหนึ่ง แต่นี่เป็นเรื่องจริงของคนกล้า บันทึกการเดินทางแห่งความเป็นไปได้อันไม่รู้จบนี้ มันเริ่มต้นขึ้นในปี 1885 โดยช่างฝีมือหนุ่ม “Yong Koon” ที่เดินทางข้ามทะเลจากแผ่นดินใหญ่มาสู่แผ่นดินมลายู พร้อมด้วยหีบเครื่องมือเล็ก ๆ หนึ่งใบที่อัดแน่นด้วยความฝันและความมุ่งมั่น... เพื่อผลิตและออกแบบสินค้า Pewter (งานโลหะที่มีส่วนผสมหลักเป็นดีบุก) Royal Selangor จึงถูก “Yong Koon” ก่อตั้งขึ้นมาที่กัวลาลัมเปอร์(Kuala Lumpur) แห่งนี้ ในวันนี้ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้หรอก ว่าหีบเครื่องมือและจิตใจที่มุ่งมั่นของเขาจะกลายเป็นรากฐานของผู้นำด้านงานพิเตอร์คุณภาพสูงอันดับ 1 ของโลกในเวลาต่อมา
(Believe it or not, this global luxury name started from humble beginnings. Royal Selangor’s story began in 1885 with a young craftsman named Yong Koon, who arrived in Malaysia from China with little more than a toolbox, a vision, and the courage to dream big. He set up a tiny workshop in Kuala Lumpur, producing handcrafted items from pewter—a metal alloy primarily made of tin. What began as a small family-run shop would eventually evolve into the world’s leading name in fine pewter. Yong Koon may not have known it at the time, but his passion and perseverance laid the foundation for a brand that would one day define a category.)
Beyond all boundaries, toward the legendary - driven by the spirit of art.
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) คือดินแดนที่เติบโตด้วยพลังของวัฒนธรรมอันหลากหลาย ดินแดนเช่นนี้ล่ะคือทุ่งที่งานศิลปะจะงอกเงยได้อย่างงดงาม เมื่อ Pewter ไม่ใช่แค่โลหะหากแต่เป็นงานศิลปะที่รอการหล่อหลอมจากช่างฝีมือดี เพื่อสร้างสรรค์ให้กลายเป็นบทกวีแห่งรูปทรง จากการก่อตั้งในปี 1885 Royal Selangor ที่ดำรงตนในฐานะช่างฝีมือผู้ยึดมั่นในรากเหง้าของงานหัตถศิลป์อย่างแน่วแน่ ก็ค่อย ๆ ผลักดันพรมแดนของงานออกแบบให้กว้างไกลออกไป จนได้ร่วมงานกับนักออกแบบระดับโลกอย่าง Erik Magnussen และ Freeman Lau รวมถึงองค์กรวัฒนธรรมชั้นนำ อาทิ British Museum เพื่อร่วมกันตีความความงามในมุมมองใหม่ที่ยังคงเคารพในความดั้งเดิม
(Kuala Lumpur, with its rich mix of cultures and influences, proved to be fertile ground for creative expression. Here, pewter wasn’t just a material—it became a medium for artistry and a reflection of identity. Staying true to its roots in traditional metalworking, Royal Selangor has also continuously pushed the limits of design. Over the decades, the brand has partnered with world-renowned designers such as Erik Magnussen and Freeman Lau, as well as with esteemed institutions like the British Museum—blending heritage with contemporary design perspectives in ways that feel fresh yet deeply respectful.)
From crafted artistry to victory's emblems, from Kuala Lumpur to the world.
จากยอดฝีมือทางด้านเครื่องเรือนเชิงศิลป์ และการร่วมงานออกแบบร่วมกับนักออกแบบระดับโลกมากมาย ในที่สุด Royal Selangor ก็กลายเป็นผู้สร้างสรรค์สัญลักษณ์แห่งเกียรติยศในเวทีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Formula 1 ในมาเลเซีย, สิงคโปร์ และจีน การแข่งขัน Shanghai ATP 1000 Masters หรือ Sime Darby LPGA Malaysia Golf Tournament ผลงานของ Royal Selangor คือบทบันทึกแห่งชัยชนะที่สง่างามไม่เหมือนใคร และจากสำนักงานใหญ่ของ Royal Selangor ที่ตั้งอยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย Royal Selangor ยังเปิดสาขาในเมืองสำคัญด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ทั่วโลก เช่น ลอนดอน ฮ่องกง และสิงคโปร์ สินค้าของ Royal Selangor ถูกส่งต่อสู่สายตาโลก วางตัวอยู่ในห้างสรรพสินค้าระดับตำนาน อาทิ Wako ในญี่ปุ่น, Harrods ในลอนดอน และ Hudson Bay ในโตรอนโต สะท้อนถึงความไว้วางใจในคุณภาพที่ข้ามผ่านพรมแดนของวัฒนธรรม
(From designing sculptural homeware to crafting bespoke pieces for international icons, Royal Selangor has made its mark on the global stage. Their works have been featured in prestigious events such as Formula 1 Grand Prix races in Malaysia, Singapore, and China, the Shanghai ATP 1000 Masters, and the Sime Darby LPGA Malaysia Golf Tournament. Each piece they create is more than a trophy—it’s a symbol of excellence, legacy, and artistry.
Today, from its headquarters in Kuala Lumpur, Royal Selangor continues to grow, with flagship stores in global fashion and design hubs like London, Hong Kong, and Singapore. Their pieces can also be found in some of the world’s most iconic department stores, including Wako in Tokyo, Harrods in London, and Hudson Bay in Toronto—a testament to their craftsmanship and timeless appeal.)
A symphony of skills, orchestrated toward a masterpiece.
ในปัจจุบัน Royal Selangor เดินทางมาไกลถึง 140 ปี อยู่ภายใต้การนำของผู้บริหารรุ่นที่ 4 “Dato’ Yong Yoon Li” และไม่ได้หยุดยั้งอยู่เพียงแค่งาน Pewter หากแต่ยังมีการส่งต่อความเชี่ยวชาญถ่ายทอดผ่านไปยังบริษัทในเครือที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวมากมาย อาทิ Comyns ที่โด่งดังในฐานะผู้สร้างสรรค์เครื่องเงินชั้นสูง โดยเฉพาะผลงานตีความจากศิลปินในตำนานอย่าง Paul de Lamerie ช่างเงินผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 18 หรือ Selberan ผู้นำในด้านเครื่องประดับทองคำ 18K และเพชร ที่สามารถถ่ายทอดความประณีตในสไตล์ยุโรปออกมาได้อย่างงดงามเหนือกาลเวลา
และนี่คือ Royal Selangor มากกว่างานพิวเตอร์ เพราะมันคือการเฉลิมฉลองทุกช่วงเวลามีค่าในชีวิต ด้วยศิลป์อันประณีตที่ส่งต่อแรงบันดาลใจจากรุ่นสู่รุ่น
(Now celebrating its 140th anniversary, Royal Selangor remains a family business, led by fourth-generation Managing Director Dato’ Yong Yoon Li. The company has expanded beyond pewter, too. Under its umbrella are brands like Comyns, known for exquisite sterling silver collectibles—including interpretations of works by the legendary 18th-century silversmith Paul de Lamerie—and Selberan, a fine jewelry house that specializes in 18K gold and diamonds with timeless European design influences.
This is Royal Selangor—more than metal, more than craft. It’s about honoring life’s most meaningful moments, through artistry that transcends generations.)
