มาแล้วววว ผู้ช่วยในการสร้างสรรค์งาน Content ที่อัพเกรดกลับมาใหม่ DJI Osmo Mobile 7 Series สมาร์ตโฟนกิมบอลรุ่นใหม่ล่าสุดจาก DJI แถมเปิดตัวใหม่ทั้งทีมีมาให้เลือกถึง 2 รุ่นเลยด้วย ส่วนมันจะมีอะไรใหม่ น่าสนใจยังไงบ้าง และต่างกันตรงไหน ไปครับ ไปดูกันเลย
อะไรที่ดีอยู่แล้วมันก็ต้องรักษาไว้ จุดเด่นด้านความคล่องตัวที่มีอยู่ก็เลยถูกสืบทอดต่อมาถึง DJI Osmo Mobile 7 Series เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้เราสามารถพกพาสมาร์ตโฟนกิมบอลอัจฉริยะนี้ไปได้ทุกที่ทุกเวลา จะ Moment ไหนก็พร้อมท้าทายทุกความสร้างสรรค์
โดยในส่วนงานออกแบบบอดี้ดีไซน์ของ DJI Osmo Mobile 7 และ DJI Osmo Mobile 7P จะมีจุดต่างเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ 2 จุด จุดแรก คือ Built-In Extension Rod ที่มีในรุ่น DJI Osmo Mobile 7P เท่านั้น ส่วนอีกจุดคือ Side Wave Wheel ที่ใช้ควบคุมการโฟกัสและซูมอิน-ซูมเอาท์ รวมถึงใช้ควบคุมการ Fill Light ซึ่งจะมีในรุ่น DJI Osmo Mobile 7P เท่านั้น ส่วน DJI Osmo Mobile 7 จะเปลี่ยนเป็น Slider สำหรับเปลี่ยนโหมดแทน
สำหรับในส่วนนี้คนที่ไม่ได้ใช้งาน Built-In Extension Rod และ Side Wave Wheel การเลือก DJI Osmo Mobile 7 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ
DJI Osmo Mobile 7 Series อัพเกรดกลับมาใหม่พร้อม Active Track 7.0 ที่จะมอบความแม่นยำและลื่นไหลในการติดตาม ถึงขนาดที่แม้จะเปลี่ยนระยะเลนส์ก็ยังติดตามเป้าหมายได้อย่างแม่นยำจิกหนึบ แต่มันยังเพิ่มความหลากหลายยืดหยุ่นในการเลือก Priority อีกด้วย
ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้เน้นติดตามคนหรือสัตว์ได้ตามใจชอบ ยิ่งถ้าใช้งานร่วมกันกับแอป DJI Mimo ก็จะสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ Smart Tracking Activation ได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถสลับตำแหน่งจุดโฟกัสได้ที่ต้องการได้อย่างทันใจเพียงแค่นิ้วแตะ
นี่คือหนึ่งในไม้กันสั่นสมาร์ตโฟนกิมบอลที่เป็นมิตรกับมือใหม่อย่างสุด ๆ เพราะต่อให้เราตัดต่อไม่เป็นก็มีแอป DJI Mimo มาช่วยทำงานให้เรา แค่เพียงเลือกวิดีโอฟุตเทจที่ถ่ายไว้แล้วเลือกให้ DJI Mimo ช่วยตัดต่อให้เราโดยอัตโนมัติ เพียงแค่นี้ก็ได้วิดีโอสวย ๆ แล้ว
และถ้าไม่รู้จะดีไซน์มุมกล้องยังไงดีก็ยังมีเพื่อนคู่ใจของมือใหม่ ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดซีนเองให้วุ่นวาย ชีวิตง่ายขึ้นเยอะด้วย ShotGuides ที่จะช่วยแนะนำการควบคุมกิมบอลให้เรา เพื่อสร้างสรรค์งาน Content ในระดับโปร เหมือนมีตากล้องมืออาชีพมาให้คำแนะนำ
ในส่วนของการเปิดปิดเครื่องก็ง่ายและทำได้ไวมาก แค่กางไม้ออกมาก็เปิดเครื่องพร้อมลุยได้เลย และแค่กดปิดเครื่องไม้ก็จะพับเก็บให้เราอัตโนมัติ
ถ้าคิดว่าการพกพาและใช้งาน DJI Osmo Mobile 7 Series มันง่ายแล้ว การติดตั้งยิ่งง่ายกว่า เพราะว่ามี Quick-Release Magnetic Phone Clamp มาให้ ถอดง่ายติดตั้งสะดวก และรองรับน้ำหนักของสมาร์ตโฟนที่มีเลนส์ขนาดใหญ่ได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังรองรับการควบคุมระยะไกล สามารถสั่งงานได้ผ่าน Apple Watch
นอกจาก ShotGuides แล้ว DJI OSMO Mobile 7 Series ยังอัดแน่นด้วยสุดยอดฟังก์ชันอีกมากมาย ทั้ง Follow Mode ที่มีให้เลือกใช้งานถึง 4 โหมด (PF / PTF / FPV / SpinShot) ระบบสั่งการด้วยท่าทางที่สามารถใช้ควบคุมได้ตั้งแต่การติดตาม การถ่ายทำ และการจัดเฟรม ไปจนถึง TimeLapse, MotionLapse, HyperLapse, DynamicZoom
และยังมีฟังก์ชันจัดการแหล่งพลังงานที่ทำให้ DJI Osmo Mobile 7 Series สามารถแปลงร่างเป็น Power Bank ให้กับสมาร์ตโฟน รวมทั้งการใช้งานร่วมกับโมดูลมัลติฟังก์ชันเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนและ Power Bank เข้ากับ DJI Osmo Mobile 7 Series ผ่านพอร์ต USB-C เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อีกด้วยนะ
เอาจริง ๆ สำหรับ DJI Osmo Mobile 7 Series ทั้ง DJI Osmo Mobile 7 และ DJI Osmo Mobile7P มันยังมีฟังก์ชันเจ๋ง ๆ อยู่อีกเพียบเลยนะ เดี๋ยวเรารอไปดูรีวิวเต็มกันแบบจุใจที่ช่อง BIG Camera บน YouTube กันอีกที เร็ว ๆ นี้ดีกว่า กำลังตัดกันใกล้จะเสร็จแล้วจ้า และคนที่อยากลองเข้ามาสัมผัสกับตัวจริงของ DJI Osmo Mobile 7 Series ก็สามารถแวะมาเจอกันได้ที่ร้าน BIG Camera กว่า 160 สาขาทั่วประเทศกันได้เลยจ้า